วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Le festival (เทศกาลสำคัญในฝรั่งเศส)


Le festival du théâtre à Avignon. (เทศกาลละครที่ Avignon)
Le festival du film à Canne. (เทศกาลภาพยนต์ที่ Canne)
Le festival du film fantastique à Avoriaz. (เทศกาลมหัศจรรย์ภาพยนต์ที่ Avoriaz)
Le festival de la musique à Aix-en-Provence. (เทศกาลดนตรีที่ Aix-en-Provence)
Le festival du jazz à Metz. (เทศกาลดนตรีแจ็สที่ Metz)
Le festival de la bande dessinée à Angoulème. (เทศกาลการ์ตูนที่ Angoulème)


เทศกาล Carnaval de Nice



มีจัดขึ้นทุก ๆ เดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาร่วมงานกันเยอะมากรถทัวร์จอดเรียงกันเป็นตับริมทะเล โรงแรมถูกจองเต็มทุกแห่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของทางเฟร้นช์ริเวียร่านี้เลยล่ะ ทางเมืองเขาทุ่มงบเต็มที่แต่ละปี เขาก็เปลี่ยน theme การแสดง ให้แตกต่างกันออกไป สำหรับ Theme ของปี 2010 คือ ” King Of The Blue Planet “ บรรดาขบวนพาเหรดน้อยใหญ่จึงถูกออกแบบขึ้นโดยเน้นสัตว์ในท้องทะเลเป็นหลักค่ะ รถทัวร์จอดเรียงกันเป็นตับริมทะเล โรงแรมถูกจองเต็มทุกแห่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของทางเฟร้นช์ริเวียร่านี้เลยล่ะ ทางเมืองเขาทุ่มงบเต็มที่

เทศกาลละครที่ AvignonAvignon Theatre Festival สร้างโดย Jean Vilar ในปี 1947 เป็นปีของฤดูร้อนผู้คนมักแวะพักกันที่นี้และจำเป็นในชีวิตทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส








เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์

เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเทศกาลหนึ่ง และมีอิทธิพลมากที่สุดรวมถึงชื่อเสียง เทียบเคียงกับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสและเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน งานจัดขึ้นประจำปี ราวเดือนพฤษภาคม ที่ Palais des Festivals et des Congrès ในเมืองคานส์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส


ประวัติเล็กน้อย นี้แน่นอนก็คือ Angoulême การ์ตูน City International และภาพที่บันทึกภาพการ์ตูนทั้งหมดที่ตีพิมพ์ในฝรั่งเศส ประเภทของห้องสมุดแห่งชาติการ์ตูน … และยังอย่างใดไม่มีอะไรจะ Angouleme เพื่อผูกความสัมพันธ์ให้ดีกับศิลปะที่ 9เมืองอุตสาหกรรมขนาดเล็กมี Angouleme ไม่มีการเชื่อมต่อโดยเฉพาะในจักรวาล 70s ต้นนี้ มันเริ่มต้นด้วยนิทรรศการง่ายๆเรื่อง”10 ล้านภาพ : ยุคทองของการ์ตูน”จัดในช่วงปลาย 1972 ใน Groux ริเริ่มของ Francis จากนั้นสมาชิกสภาเทศบาล เขามีความคิดที่จะโทร Claude Moliterni เพื่อให้ได้ภาพและเสียงสำหรับงานนิทรรศการ ในปีถัดไป, John Mardikian, รองนายกเทศมนตรีวัฒนธรรมคือการจัดปักษ์ของวรรณคดีที่ที่เขาสงวนสองวันพุธอุทิศให้กับการ์ตูน แม้นั้นของผู้เขียนที่มีชื่อเสียงมากขึ้นลักษณะที่ Angouleme ต่อไปความกระตือรือร้นที่ตามนั้นมันก็เพียงพอที่เนื่องจากปีนี้เทศกาลถูกสร้างขึ้นในรูปแบบปัจจุบัน มันหนักเสมอเพื่อเทศกาล Lucca ในเวลาที่ใหญ่ที่สุดของชนิดในยุโรปแล้วจะจัดโดยสมาคมประธาน Francis Groux และมีเลขานุการเป็นผู้ใดนอกจาก John Mardikianทั่วไป




เทศกาลลาเวนเดอร์ Fête de la lavande


…กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลลาเวนเดอร์ประจำปีในแคว้นโพรวองซ์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาชมการเก็บเกี่ยว เลือกชม เลือกชิม เลือกซื้อสินค้าโดยตรงจากเกษตรกร สาธิตการกลั่นลาเวนเดอร์ และขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ ชมการแสดงพื้นเมือง ของชาวโพรวองซ์ ร่วมเก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์จากทุ่งและนำกลับไป เป็นของที่ระลึกจากโพรวองซ์ พลาดไม่ได้กับการนั่งเฮลิคอปเตอร์ ชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา … วันที่ 4 กรกฎาคม ที่เมือง Ferrassières … วันที่ 18 กรกฎาคม ที่เมือง Valensole

วัฒนธรรมที่แตกต่างของฝรั่งเศสกับไทย
๑.คนฝรั่งเศส ชอบสั่งน้ำมูกเสียงดัง บางทีเจอชายหนุ่มหล๊อหล่อ… แต่ดันสั่งน้ำมูกเสียงดัง…โอเคเลย ยิ้มค้างแหละข้าพเจ้า
๒.เรื่องของตด… อันนี้คนใกล้ตัวเลย ทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เวลาอยากจะตด ก็เรียกว่า ปล่อยกันอย่างเสรีเลยทีเดียว
๓.เรื่องของการล้างจาน… ที่บ้านมีเครื่องล้างจาน แต่ชอบวางจานที่ใช้แล้ว รอจนกว่าจะเต็มเครื่องแล้วถึงจะล้างทีเดียว ซึ่งบางทีก็กินเวลาไปสองวัน… บางบ้านกินเวลาไปวันที่สาม… เอ่อ… สองวันก็ว่าแย่แล้ว
๔.หากล้างจานเพียงไม่กี่ใบ… คนที่นี่จะใช้น้ำยาล้างจานแบบพิเศษ ที่จุ่มน้ำเดียวแล้วเอาขึ้นมาเช็ดให้แห้ง โดยที่ไม่ล้างน้ำทิ้งแบบบ้านเราจนสะอาดจนแน่ใจอะไรประมาณนั้น หรือเค้าประหยัดน้ำกันขนาดนั้นนะ
๕.เรื่องการอาบน้ำ… ที่นี่จะอาบเพียงครั้งเดียวต่อวัน และอาบแบบรวดเร็วมาก ไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จแล้ว
๖.เรื่องเสื้อผ้า… จะใส่ซ้ำอยู่ สาม ครั้งกันเลยทีเดียว…
๗.เรื่องกิน เป็นอันรู้กันว่า วัฒนธรรมการกินของฝรั่งเศสนั้นเป็นสเต็บ จะเริ่มจากของเบาๆ ก่อน แล้วตามด้วยเมนูหนัก เช่น ถ้ามีหน่อไม้ฝรั่งต้ม สลัดผัก แกะอบ ขนมปัง ชีส ก็จะไล่กันมาเป็นสเต็บ จะกินทีละเมนู
๘.เห็นหลายบ้านที่มีตู้เย็น ตู้แช่แข็ง ยิ่งกว่าร้านขายอาหารทะเล… แบบว่าอลังการสุดๆ สองตู้แช่ใหญ่ๆ สามตู้เย็นปกติ รวมๆ แล้วก็ซัดไปสี่ห้าตู้กันเลยทีเดียว (ค่าไฟเท่าไหร่ไม่ต้องเดาให้ยาก) อาจเป็นว่า เก็บตุนเสมียงช่วงหน้าหนาว
๙.เรื่องประหยัด อันนี้เห็นทุกครัวเรือน ที่ต้องประหยัด หรือคนชาตินี้ ระมัดระวังเรื่องเงินกันทั้งประเทศก็ไม่รู้นะ ชาติอื่นเป็นหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เมืองไทยเรา ก็ไม่คิดว่าจะต้องประหยัดกันมากมายก่ายกอง เช่น เวลาที่ต้องการซื้อของกิน ผลไม้ ผักสด บ้านเราก็ซื้อกินกันจุใจ กินไม่หมดก็ทิ้งบ้างสำหรับผัก แต่ที่นี่ เห็นชัดๆ ว่าระมัดระวังและบริการควบคุม เรื่องผัก ได้อย่างไม่มีเหลือทิ้ง
๑๐.เรื่องของการใช้รถยนต์ ที่นี่เห็นว่ารถคันเล็กแล้ว ก็ยังมีเล็กกว่าที่เห็นอีก เรียกว่าแข่งกันเล็กก็ว่าได้ ในขณะที่บ้านเรา แข่งกันขับรถคันใหญ่โตมโหฬาร
๑๑.เรื่องการบริการ…คนที่นี่จะบริการตัวเองเป็นหลัก เช่น เติมน้ำมัน หรือไปช็อปปิ้งก็จะต้องไปเก็บรถเข็นเข้าที่เข้าทางห้ามทิ้งเกะกะ หรือ การที่เราจะแหลมหน้าเข้าไปช่วยเหลือใครบางคน
ต้องถามเค้าก่อนว่า เขาต้องการหรือเปล่า เนื่องจากมันจะเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว ในขณะที่บ้านเราเป็นการแสดงความมีน้ำใจ และเรื่องของการบริการ บ้านเรานี่บริการสุดใจขาดดิ้นกันเลยทีเดียว ที่ฝรั่งเศสนี่ยาก!!!!
๑๒.เรื่องเวลาเปิดปิดห้าง สรรพสินค้า ที่นี่เปิดกันแค่ สองสามทุ่มในเมืองใหญ่ๆ ปิดเสาร์อาทิตย์ อีกต่างหาก
หลายเดือนก่อน ที่ โอบาม่า และศรีภรรยามาปารีส…. และโอบาม่าได้เอาเรื่องที่เค้าไม่สามารถหาที่เดินช็อปปิ้งกับครอบครัวในวันอาทิตย์…เอามาล้อ ซาโกซี่ เป็นเรื่องขบขันไป
ว่าวันอาทิตย์ไม่สามารถช็อปปิ้งในฝรั่งเศสได้


วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

LES VOCABULAIRES

LES VOCABULAIRES

colors label:
 - ตัวหนังสือสีเขียว : คำนาม (nom)
 - ตัวหนังสือสีฟ้าเข้ม : คำคุณศัพท์ (adjectif)
 - ตัวหนังสือสีแดงเข้ม : คำสรรพนาม (pronom)
 - ตัวหนังสือสีส้มเข้ม : ชื่อประเทศต่างๆ [คำนาม] (pays)

 
LES VOCABULAIRES อ่าน: เลอ โวคาบูแลร์
intelligent (แอง-เตล-ลิ-ฌอง) [adj] = ฉลาดเฉลียว (intelligent)
amusant
(อะ-มู-ซอง) [adj] = สนุกสนาน, เฮฮา (funny)
lac (ลัค) [n] = ทะเลสาบ (lake)
jour (ฌูร์) [n] = วัน (day)
nuit (นุย) [n] = คืน (night)
france (ฟรองซ์) [n] = ประเทศฝรั่งเศส (france)
espagne (เอ-สปาน-นยะ) [n] = ประเทศสเปน (spain)
angleterre (ออง-เกอ-แตร์) [n] = ประเทศอังกฤษ (england)
canada (กา-นา-ดา) [n] = ประเทศแคนาดา (canada)
suisse (ซุย-อิส) [n] = ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (switzerland)
italie (อิ-ตา-ลี) [n] = ประเทศอิตาลี (italy)
belgique (เบล-ฌิค) [n] = ประเทศเบลเยี่ยม (belgium)
japon (ฌา-ปง) [n] = ประเทศญี่ปุ่น (japan)
allemagne (แอล-มัง-นยะ) [n] = ประเทศเยอรมัน (germany)
tha
ïlande (ไต-ลอง-เดะ) [n] = ประเทศไทย (thailand)
nord (นอค์) [n] = ทิศเหนือ (north)
sud (ซุด) [n] = ทิศใต้ (south)
l'est (เล็ส) [n] = ทิศตะวันออก (east)
l'ouest (ลู-เอ็ส) [n] = ทิศตะวันตก (west)
beau (โบ) [adj] = หล่อ (handsome)
belle (แบล) [adj] = สวย (beautiful)
célibataire (เซ-ลิ-บา-แตร์) [n] = โสด (single)
homme (ออม-เม่) [n] = ผู้ชาย (man)
féminin (เฟ-มิ-แนง) [n] = ผู้หญิง (woman)
leçon (เล-ซง) [n] = บทเรียน (lesson)
table (ต๊าบ-เบลอะ) [n] = โต๊ะ (table)
ami (อา-มี่) [n] = เพื่อน(ผู้ชาย) (friend(boy))
amie (อา-มี่) [n] = เพื่อน(ผู้หญิง) (friend(girl))
vidéo (วี-เด-โอ) [n] = วีดีโอ (video)
profil (โปร-ฟิล) [n] = ประวัติ (profile)
histoire (อิส-ตัวร์) [n] = ประวัติศาสตร์ (history)
stylo (สตี-โล่) [n] = ปากกา (pen)
chat (ชาท์) [n] = แมว (cat)
voyage (โว-ยาจ) [n] = การเดินทาง (travel)
salon (ซา-ลง) [n] = ห้องรับแขก (living room)
appartement (อะ-ปา-เตอ-มอง) [n] = อพาร์ทเมนท์, ห้องพัก (apartment)
sac (ซัค) [n] = กระเป๋าถือ (purse)
chaise (เชส) [n] = เก้าอี้ (chair)
pantalon (ปอง-ตา-ลง) [n] = กางเกง (pant)
composition (กง-โป-ซิ-ซิอง) [n] = การเรียงความ (composition)
chien (เชียง) [n] = สุนัข (dog)
élève (เอ-แลฟ) [n] = นักเรียนมัธยม (student)
cigarette (ซิ-กา-แคต) [n] = บุหรี่ (cigarette)
école (เอ-โกล) [n] = โรงเรียน (school)
étudiante (เอ-ตู-ดิ-ออง-เต) [n] = นักศึกษา (student) ไม่เหมือนกับ élève นะ
mouchoir (มู-ชัวร์) [n] = ผ้าเช็ดหน้า (handkerchief)
garçon (การ์-ซง) [n] = เด็กชาย (boy)

enfant (ออง-ฟองต์) [n] = เด็ก, ลูก (baby)
fille (ฟีลย์) [n] = เด็กหญิง (girl)
arbre (อาร์บ) [n] = ต้นไม้ (tree)
voiture (วัว-ตูร์) [n] = รถยนต์ (car)
auto (โอ-โต) [n] = รถยนต์ (car)
café (คา-เฟ่) [n] = ร้านกาแฟ (coffee shop)
heure (อูร์) [n] =  ชั่วโมง (hour)
hôpital (โอ-ปิ-ตอล) [n] = โรงพยาบาล (hospital)
monsieur (เมอ-ซูวร์) [pronoun] = (คำนำหน้า) นาย (Mr.)
madame (มา-ดาม) [pronoun] = (คำนำหน้า) นาง (Mrs.)
mademoiselle (มาด-มัว-แซล) [pronoun] = (คำนำหน้า) นางสาว (Miss)
petit (เปอ-ติ) [adj] = เล็ก, น้อย (little)
grand (กรอง) [adj] = สูง, ใหญ่ (big, grand)
professeur (โปร-เฟส-ซูวร์) [n] = อาจารย์ (professor)
pain (แปง) [n] = ขนมปัง (bread)
lapin (ลาแป็ง) [n] = กระต่าย (rabbit)
âge (อาจ) [n] = อายุ (age)
avion (อา-วิ-อง) [n] = เครื่องบิน (airplane)
cousin (คูแซ็ง) [n] = ลูกพี่ลูกน้อง (cousin)
orphelin (ออ-ฟี-แลง) [n] = เด็กกำพร้า (orphan)
prince (แปค็ง) [n] = เจ้าชาย (prince)
princesse (แปค็งเซส) [n] = เจ้าหญิง (princess)
foyer (ฟัวเย่) [n] = บ้าน (house)
noyer (นัวเย่) [n] = วอลนัท (walnut)
serviette (เซอ-เวียต) [n] =  ผ้าเช็ดตัว (towel)
calendrier (กา-ลอง-ดรีเย่) [n] = ปฏิทิน (calendar)
oncle (อองโกล) [n] = ลุง ป้า น้า อา (uncle)
image (อิมาจ) [n] = รูปภาพ (image)
riche (ริเช่) [adj] = ร่ำรวย (rich)
célèbre (เซแลบ) [adj] = มีชื่อเสียง คนดัง (famous)
amérique (อะ-เม-ริค) [n] = ประเทศอเมริกา (america)

คำภาษาฝรั่งเศสในภาษาไทย

ภาษาฝรั่งเศส                       คำแปล                       ภาษาฝรั่งเศส                       คำแปล
กะปิตัน                                  นายเรือ                          กิโล                                        จำนวนพัน
โก้เก๋                                   สวยเข้าทีจนอวดได้         กรัม                                    หน่วยน้ำหนักชนิดหนึ่ง
กงสุล                                  พนักงานดูแล                    ข้าวแฝ่                                    กาแฟ
                                           ผลประโยชน์ของรัฐบาล    
บูเกต์                                      ช่อดอกไม้                      คิว                                   การเรียงลำดับก่อนหลัง
ปาร์เกต์                                  ไม้อัดพื้น                       โชเฟอร์                                 คนขับรถยนต์
รูจ                                           สีทาปากแก้ม               บุฟเฟ่ต์                                  อาหารที่บริการตัวเอง
มองซิเออร์                            นาย  (คำนำหน้าชื่อ)      เมตร                                       มาตราวัดความยาว
กุฎไต                                     เสื้อ                                ลิตร                                   มาตราตวงจำนวนหนึ่ง
คาเฟ่                                       กาแฟ                             เรสเตอรองต์                         ภัตตาคาร
ครัวซองท์                              ขนมชนิดหนึ่ง                  บาทหลวง                       นักบวชศาสนาคริสต์
โชบองต์                                ขนมชนิดหนึ่ง                   เมอแรง                                  ขนมชนิดหนึ่ง
บูเช่                                         ขนมชนิดหนึ่ง                   อาวัล                       การรับประกันการใช้เงิน
                                                                                                                                                                                 ตามตั๋วเงิน

วันชาติฝรั่งเศส

14 กรกฎาคม Bastille Day วันชาติฝรั่งเศส เป็นวันที่คุก Bastille:ซึ่งคุมขัง นักโทษทางการเมืองในฝรั่งเศสถูกทำลายโดยพลังประชาชน วันนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ ของการสิ้นสุดการปกครองแบบราชาธิปไตยในประเทศฝรั่งเศส และเริ่มต้นศักราชของ การปกครองแบบสาธารณรัฐเป็นครั้งแรก

ย้อนไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1789 กองทัพทหาร และประชาชนได้พร้อมใจกันบุกคุกบาสติลย์ (Bastilles) เพื่อปลดปล่อย นักโทษ การเมือง ให้เป็นอิสระ อันคุกบาสติลย์นี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายของการบีบบังคับและความอยุติธรรม ซึ่งเกิดจากการปกครอง โดยกษัตริย์ ที่ไร้ ทศพิธราชธรรม จึงประกาศวันที่ได้รับการปลดปล่อยนี้ให้เป็น..วันชาติของฝรั่งเศส (La Fête Nationale)

เมื่อหลายร้อยปีก่อน ประเทศฝรั่งเศสมีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนกระทั่งถึงปลายศตวรรษที่ 16 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งราชวงศ์บูรบอง (Bourbon)บ้านเมืองอยู่ในระยะของสงครามอังกฤษ เพื่อแย่งชิงอาณานิคม ทำให้การเงินการคลังของประเทศล้มละลาย ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างอัตคัดขาดแคลน แต่ในทางกลับกัน ราชสำนักกลับมีความเป็นอยู่อย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย ชนชั้นขุนนางได้รับการยกเว้น ภาษี ส่วนประชาชน ที่มีความยากจนอยู่แล้วต้องถูกทางการรีดภาษีอย่างหนัก ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมาก 
 
ในตอนนั้น ชนชั้นกลางมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เนื่องจากชนกลุ่มนี้มีการศึกษาดี ร่ำรวย แต่ไม่มี สิทธิในทาง การเมือง การปกครอง เทียบเท่าชนชั้นพระ และชนชั้นขุนนาง จึงต้องการเปลี่ยนแปลงระบบเก่า และได้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจเอาไว้ โดยเข้าร่วม การปฏิวัติในอเมริกา ซึ่งมีสาระสำคัญในทางทฤษฎีว่าด้วยสิทธิิ ตามธรรมชาติิของมนุษย์ และสองนักปราชญ์แห่งยุคคือ วอลแตร์ กับ มองเตสกิเออ นำทฤษฎีดังกล่าวมาสอนประชาชน ในขณะเดียวกัน มาควิส เดอ ลา ฟาแยตต์ (Marquis de la Fayett) ซึ่งทำสงคราม ช่วยเหลือ ชาวอาณานิคม ในอเมริกาต่อต้านอังกฤษจนได้ชัยชนะ ก็นำความคิดนี้มาเผยแพร่ จึงทำให้ ประชาชนชาวฝรั่งเศส ดิ้นรนเรียกร้อง ให้ได้มาซึ่งสิทธิและเสรีภาพ
ยิ่งขึ้น 
 
 
 
เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1789 ประชาชนซึ่งมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ได้บุกเข้าปล้นสะดมบ้านของพวกขุนนาง กรุงปารีสมีแต่่ ความวุ่นวาย ชนชั้นกลางได้รวมตัวกันก่อตั้งกองทหารรักษาการณ์แห่งชาติเข้าร่วม กับประชาชนทำลายคุกบาสติลย์ ซึ่งเท่ากับว่า เป็นการปลดแอกอำนาจการปกครองโดยกษัตริย์ นับเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ยิ่ง และสำคัญของโลก
 
ผลกระทบของเหตุการณ์ได้แพร่ไปสู่ประเทศอื่นๆในยุโรป โดยเฉพาะในรัสเซีย กล่าวคือระยะแรกของการปฏิวัติ ประมาณปี ค.ศ. 1791ได้มีการ ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใช้ กษัตริย์ต้องอยู่ใต้กฎหมาย และรัฐสภา ก็มีเพียงสภาเดียว คือ สภานิติบัญญัติ ชนชั้นกรรมาชีพมีบทบาทในการปกครอง แต่ด้วยความเกรงกลัวว่า การล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ์จะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป ทำให้ออสเตรียและปรัสเซียยกทัพรุกฝรั่งเศสแต่ไม่สำเร็จ ทางสภานิติบัญญัติจึงยกเลิกระบบ ราชาธิปไตยและประกาศเป็นประเทศสาธารณรัฐ เมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 1792 และตั้งสภาใหม่ขึ้นมา และในปี 1793 ก็ได้สำเร็จโทษพระเจ้าหลุยส์และพระนางมารี อังตัวเนต์ด้วยการประหารชีวิตด้วยเครื่องประหาร กิโยตีน แม้ผลการปฏิวัติจะสำเร็จ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังมีฐานะยากจนเหมือนเดิม รัฐบาลยังมุ่งแต่กอบโกยผลประโยชน์กัน จนมีบุคคลคนหนึ่งแสวงหาอำนาจโดย เป็นเครื่องมือ ให้ประชาชนเลื่อมใส และยึดอำนาจการปกครองมาเป็นของตน บุคคลผู้นี้คือ นโปเลียน โบนาปาร์ต 
เครดิต 
เรียนฝรั่งเศสให้ประสบความสำเร็จ

น้อง ๆ หลายคน ที่กำลังจะขึ้น ม.ปลาย ในสายศิปล์ภาษา ต่างมีคำถามในใจว่า ภาษาฝรั่งเศสยากไหม หรือว่าจะเอาภาษาอื่นดี พอเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศสเข้าจริงๆ ต่างบ่นกันว่า ภาษาฝรั่งเศสยากหนักหนา หลายคนถามว่า จะเรียนฝรั่งเศสอย่างไร ให้เก่งและเข้าใจ? เอาล่ะ ครู  François POP จะเริ่มไขข้อข้องใจให้กับผู้เรียน ครูเข้าใจว่า สิ่งที่ผู้เรียนกำลังเจออยู่ มันรู้สึกอย่างไร เพราะครูเอง ก็เคยผ่านช่วงชีวิต การแบบนั้นมาก่อน ตั้งแต่สมัย ม.ปลาย จากประสบการของครู วิธีการที่จะเรียนให้ประสบผลสำเร็จนั้น มีดังนี้

เนื่องจากคำศัพท์ในภาษาฝรั่งเศส ค่อนข้างแตกต่าง จากภาษาอังกฤษอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น un chien (สุนัข) ภาษาอังกฤษ คือ dog , une maison (บ้าน) ภาษาอังกฤษคือ house เป็นต้น ดังนั้น ผู้เรียน ควรหมั่นท่องศัพท์ให้มากๆ เพราะว่าสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากไวยากรณ์แล้ว คำศัพท์ เป็นสิ่งที่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดครับ (คอนเฟิร์มจริงๆครับ )

ฝึกพูด,ฝึกฟังบ่อยๆ ผู้เรียนหลายคน ที่เรียนภาษาฝรั่งเศส ก็อยากพูดภาษาฝรั่งเศสได้ และฟังในสิ่งที่คนฝรั่งเศส พูดสื่อสารกัน แต่ปัญหาคือ เมื่อเรียนเสร็จแล้ว สิ่งที่ได้จากการเรียน ผู้เรียนได้นำกลับไปทบทวนหรือเปล่า? ถ้าเรียนไปแล้ว แต่ไม่ได้กลับไปทบทวน ครูถามว่า จะพูดภาษาฝรั่งเศส และคนฝรั่งเศสฟังจะเข้าใจมั้ย? ดังนั้น วิธีที่จะพูดภาษาฝรั่งเศสได้ ในระดับเบื้องต้น คือฝึกพูดที่หน้ากระจก หรือพูดกับเพื่อนๆ ในประโยคง่ายๆ เช่น Bonjour สวัสดี , Ça va ? สบายดีมั้ย ? , je m’appelle François POP ฉันชื่อ François POP , J’ai 21 ans ฉันอายุ 21 ปี , Je suis étudiant ฉันเป็นนักศึกษา , merci  ขอบคุณ เป็นต้น ในการฝึกพูดนั้น ผู้เรียนไม่ควรที่จะอาย ในการพูดภาษาฝรั่งเศสออกมา เพราะถ้าเรามีความเขินอาย เราก็พูดสื่อสารไม่ได้ ดังนั้นเราควรกล้าที่จะพูด พูดผิดพูดถูกไม่เป็นไร ขอให้มีความกล้าแสดงออก เพราะมันจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี ในการพูดภาษาฝรั่งเศส ในส่วนทักษะการฟังนั้น ควรฟังข่าว ดูหนัง หรือฟังเพลง เป็นภาษาฝรั่งเศส ถึงเราฟังไม่รู้เรื่อง แต่ในภาษาฝรั่งเศสมันจะมี mot clé (คีย์เวิร์ดของคำ) ซึ่งขึ้นอยู่ที่บริบทที่ฟัง (ไว้คราวหน้า ครู François POP จะเอาบทความ หรือ เพลง มาอัพเดทให้ได้ฟังกัน )

การเขียน อีกทักษะหนึ่งในการเรียนภาษาฝรั่งเศส จัดว่าเป็นทักษะที่สำคัญ เพราะผู้เรียนฝรั่งเศสบางคน เมื่อสามารถ พูด,ฟัง และ อ่าน ได้ แต่ไม่สามารถเขียนได้ เพราะในชีวิตประจำวัน เราจะต้องเขียนจดหมาย เขียนบทความ หรือแม้แต่กรอกข้อมูล ในการสมัครงาน เป็นต้น ดังนั้นการเขียนที่ดี และมีประสิทธิภาพนั้น ผู้เรียนควรฝึกฟังเพลงออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ และควรเริ่มจาก การเขียนประโยคฐาน เพื่อการสื่อสารแบบง่ายๆ เช่น ฉันชื่ออะไร , ฉันมีอายุเท่าไร, ฉันอยู่ที่ไหน และ ฉันประกอบอาชีพอะไร เป็นต้น

นอกเหนือจากสิ่งที่ครูได้กล่าวไปแล้ว ผู้เรียนควรจะฝึกฝน ทุกทักษะไปพร้อมๆกัน เพราะจะทำให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุดในการเรียน และการนำภาษาฝรั่งเศส ไปใช้ได้ในชีวิตประวัน  หากผู้เรียนได้ลองทำตามที่ครูบอก รับรองว่า จะเปลี่ยนความคิด จากการภาษาฝรั่งเศสที่ว่ายาก กลายเป็นเรื่องง่ายไปโดยปริยาย

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เรียนรู้ภาษาฝรังเศส

Post  1
 
 
Vocabulaire ( โวกาบูแลร์) คำศัพท์ 
& Conversation ( กงแวร์ซาซียอง ) บทสนทนา
1   La Comunication ( ลา กมมูนีกาซียอง) การติดต่อสื่อสาร
 
Salut     ( ซาลู่ )  สวัสดี
Bonjour, Monsieur (บง ชูร์ เมอซีเยอ) สวัสดีตอนเช้า  ใช้กับผู้ชาย
Bonjour , Mademoiselle ( บงซัวร์ มัดมัวแซ็ล) สวัสดีตอนเย็น ใช้กับเด็กผู้หญิง หรือ หญิงสาวที่ยังไม่ใด้แต่งงาน
 
Bonjour,Madame (บงชูร์ มาดาม ) สวัสดีตอนเช้า (ใช้พูดกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว)
 
Bonne nuit, Madame (บอนนุย มาดาม ) สวัสดีตอนกลางคืน หรือ ใช้ก่อนเข้านอน (ใช้พูดกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว)
 
Bonne Journée ( บอน ชูร์เน่ ) ขอให้วันนี้ผ่านไปด้วยดี
Bonne après-midi ( บอน นับแพร่ะ มีดี้ ) ขอให้บ่ายนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี
Bonne soirée ( บอน ซัวเร่ ) ขอให้เย็นนี้ผ่านไปด้วยดี
Bon Week-end ( บง วีคเก็นด์) ชอให้สุดสัปดาห์นี้ผ่านไปด้วยดี
Bonnes Vacances ( บอน วาก๊องซ์) ขอให้เที่ยวให้สนุก
Au revoir ( โอ เรอวัวร์) ลาก่อน
A bientôt ( อา เบียงโต) แล้วเจอกันเร็วๆนี้
A Plus tard ( อา ปลู๊ ตาร์) แล้วเจอกันเร็วๆนี้ 
A Tout à l'heure (  อา ตุ๊ ตา เลอร์) แล้วเจอกันเร็วๆนี้  ใช้มื่ออาจจะเจอกันอีกสองสามชั่วโมงนี้
A tout de suite ( อา ตุ๊ด เดอ ซวิตต์) แล้วเจอกันเร็วๆนี้ ใช้เมื่อแแน่ใจว่าวันนี้จะเจอกันอีกภายในไม่กี่ชั่วโมง
 
 
ตัวอย่างข้อความสนทนา
 
Comment vous appelez-vous?  (ก็อมม็อง วู ซับเปอเล่ วู ) คุณชื่ออะไร
Comment t'appelles-tu?  (ก้อมม็อง ตั๊บแป็ล ตู) เธอชื่ออะไร
Je me présente, je m'appelle  ........เชอ เมอ เพร่ซ้องต์  เชอมับแป็ล) ฉันขอแนะนำตัวเอง ฉันชื่อ
 
Alice, Voici Denise ( อาลิซ วัวซิ เดอนิซ) อาลิซ  นี่คือ เอนิซ
Comment allez- vous?  (ก็อมม็อง ตัลเล่วู ) ( ก้อมม็อง วาตู ) ( ซา ว้า) ท่านสบายดีนะครับ  เธอสบายดีนะ  เปนอย่างไรบ้าง
 
Très Bien ,Merci.  et vous?( แทร่ะ  เบียง แมร์ซี่ เอะ วู้) สบายดี ขอบคุณ แล้วท่านล่ะ
ça va / comme si ,comme ça ( ซา วา   ก็อม ซิ  ก็อม ซ่ะ)  สบายดี ก็อย่างนั้นๆแหละ
 
Enchanté de faire votre connaissance(อ็องช็องเต้ เดอ แฟร์ โว้ตเทรอ กนเน้สซ้องซ์) ยินดีที่ใด้รู้จักคุณ
 
Je Vous souhaite la bienvenue  เชอวู ซู แอ๊ต ลา เบียงเวอนู) ขอต้อนรับครับ
A votre santé!  A la vôtre!  Tchin Tchin! ( อา โว๊ตเทรอ ซ็องเต้ ,  อา ลา โว้ตเทรอ  , ชิน ชิน) ขอให้คุณมีสุขภาพดี   เป็นคำอวยพรในยามชนแก้วระหว่างการรับประทานอาหาร
 
A vos souhaites  ( อา โว ซูแอ้ะ) ขอให้สมปราถนา  อวยพรเมื่อมีใครซักคนจาม
Merci; c'est gentil de votre part / Merci infiniment  ( แมร์ซี่  เซ ซ็องตีย์ เดอ โว้ตเทรอ ปาร์       แมร์ซิ แอ็ง ฟินีม็อง) ขอบคุณมากค่ะ  ขอบคุณมากๆ
 
Il n'y a pas de qoui! De rien ! Ce n'est pas grave! ( อีล นี ยา ป๊ะ เดอ กัว!     เดอ เรียง  !    เซอแน่ะ ป๊ะ กร๊าฟว์!)  ไม่เป้นไรค่ะ
Je m'excuse. Excusez-moi. Pardonnez-moi.( เชอ เม็กซ์กิ๊วซ์     เอ็กซ์กิ๊วเซ่ มัว     ปาร์ดอนเน่ มัว)    ขอโทษค่ะ
 
Je suis vraiment désolé( เชอ ซวี แวร่ะม็อง เดโซเล่) ฉันเสียใจจริงๆ